ถ้าไม่มีโควิด ครึ่งปีหลังทางบริษัทฯ จะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรกเป็นปกติ ดังนั้นในครึ่งปีหลังน่าจะมีรายได้ที่ดี และในภาพรวมทั้งปี ถ้าสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ และทางบริษัทฯ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ ก็มีโอกาสเติบโต เราประเมิน Base Case ณ วันนี้ (22.5.2020) ก็น่าจะผลกระทบทางด้านรายได้หดตัวประมาณ 10% กำไรอาจปรับตัวลงบ้างจากปีที่แล้ว

เรามีการลดค่าใช้จ่ายและพักชำระหนี้ มีการจัดเตรียมวงเงินสำรอง และเลื่อนการลงทุนออกไป จะเห็นได้ว่า Cash Flow ของบริษัทยังอยู่ในสถานะที่ค่อนข้างดี ในส่วนของเงินกู้ มีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระจำนวน 386 ล้านบาท ในเดือน พ.ย.นี้ แผนก็คงจะ Rollover และมีแผนสำรองในเรื่องการเตรียมเงินสดจากOperation บางส่วน อีกส่วนอาจจะออกเป็นShort term loanต่างๆ หรืออาจจะรีไฟแนนซ์ Long term loan จากสถาบันการเงิน

กลุ่มธุรกิจห้องเย็น รวมถึงCold Chain Express กลุ่มคลังสินค้าทั่วไป Barge Terminal และกำไรจากEquity Income จากประเทศเวียดนาม และกัมพูชา

ปีนี้คาดว่าจะใช้ CAPEX ประมาณ 800-850 ล้านบาท ซึ่งจะประกอบไปด้วยการสร้างคลังสินค้าห้องเย็นอาคาร9 ที่มหาชัย คลังจัดเก็บเอกสารที่สุวินทวงค์ ซึ่งทั้ง 2 คลังนี้จะเป็นระบบอัตโนมัติ และยังมีคลังสินค้าที่นวนคร และ Self-Storage สาขาพระราม9-รามคำแหง ซึ่งเริ่มดำเนินก่อสร้างไปแล้ว นอกเหนือจากนั้นเป็น CAPEX สำหรับการMaintenance ต่างๆ ทั้งนี้อาจจะมีการลงทุนอื่นๆเพิ่มเติม ซึ่งทางบริษัทฯ จะแจ้งให้นักลงทุนทราบต่อไป

ประมาณ 50 ล้านบาท

จากสถานการณ์โควิดทำให้ในปีนี้คาดการณ์รายได้ของกลุ่มAutomotive น่าจะติดลบประมาณ -30%

คาดการณ์รายได้ประมาณ250 ล้านบาท ซึ่งแบ่งตามสัดส่วนการถือหุ้นแล้วน่าจะเข้ามาที่บริษัทฯประมาณ 60-70 ล้านบาท